แนะวิธีป้องกันดูแลให้ปลอดภัย…เมื่อลูกโดนยุงกัด!

เรียกได้ว่ายุงกับเด็กน้อยเป็นของคู่กันเลยทีเดียว เพราะในเวลาที่กำลังเล่นสนุก เด็ก ๆ มักจะไม่รู้ตัวเมื่อถูกยุงกัด แถมยังไม่สามารถป้องกันตัวเองจากยุงได้อีกด้วย นอกจากนี้ ปัญหายุงกัดนั้นยังนำไปสู่อาการอื่น ๆ อีกมากมาย ทั้งการที่ลูกแพ้ยุง ไหนจะรอยดำที่ทิ้งไว้ให้เห็นเด่นชัด ไหนจะตุ่มที่บวมแดง ดังนั้นการดูแลเจ้าตัวน้อยจากยุงจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างมากสำหรับคุณแม่ ขอแนะนำเคล็ดลับในการดูแลเมื่อลูกโดนยุงกัด มาดูกันว่าจะมีวิธีอย่างไรที่ช่วยให้ลูกน้อยห่างไกลจากยุง รวมถึงการดูแลเมื่อยุงกัดลูก ว่าจะใช้อะไรทาบรรเทาอาการได้บ้าง

1. เคล็ดลับป้องกันยุงในบ้าน

‘บ้าน’ นับเป็นสถานที่ที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ เพราะเด็กต้องใช้เวลาอยู่ที่บ้านมากที่สุด และการที่มียุงอยู่ในบ้านก็สามารถทำให้เกิดเป็นปัญหาเรื้อรัง ที่สร้างความหงุดหงิด รำคาญใจ และเสี่ยงต่อสุขภาพของคนในครอบครัว ทั้งการเป็นโรคระบาดอย่างไข้เลือดออก หรือโรคแทรกซ้อนอื่น ๆ ที่อาจตามมา โดยเฉพาะกับลูกน้อยที่ยังไม่สามารถดูแลตัวเองได้ และมีภูมิคุ้มกันต่ำ 

จึงต้องมีวิธีป้องกันยุงที่สามารถทำได้ง่าย ๆ เพื่อปกป้องดูแลสมาชิกในบ้าน ไม่ให้ลูกโดนยุงกัด มาบอกต่อกัน ดังนี้

ปลูกพืชหรือต้นไม้ที่มีกลิ่นไล่ยุง

สำหรับบ้านที่มีบริเวณสนามหญ้า หรือมีพื้นที่ว่างในบริเวณบ้าน วิธีนี้ถือว่าเป็นวิธีไล่ยุงแบบธรรมชาติ ที่ปลอดภัย ไม่ต้องใช้สารเคมี แถมสามารถนำพืชไปใช้ประกอบอาหารหรือทำประโยชน์ต่อไปได้อีกด้วย ซึ่งพืชที่ควรปลูก ได้แก่ ตะไคร้หอม สะระแหน่ โหระพา มะกรูด 

สำหรับบ้านหรือคอนโดที่มีพื้นที่จำกัดก็สามารถใช้น้ำมันหอมระเหย หรือเทียนที่มีกลิ่นจากธรรมชาติมาทดแทนกันได้

ปิดบ้านให้มิดชิดป้องกันยุง

โดยเฉพาะช่วงตั้งแต่พลบค่ำเป็นต้นไป เพราะเป็นช่วงเวลาที่ยุงมักออกหากิน จึงควรปิดประตูหน้าต่างให้มิดชิด พยายามอย่าให้ในตัวบ้านมีรอยรั่วที่ยุงอาจเล็ดลอดมาได้ อาจเลือกติดตั้งมุ้งลวดเพื่อป้องกันไม่ให้ยุงบินเข้ามาในตัวบ้าน ซึ่งการติดมุ้งลวดจะทำให้สามารถเปิดประตูหน้าต่างได้ปกติ จึงมีอากาศถ่ายเท ลดความอบอ้าวและอับชื้นในบ้านได้ นอกจากจะเป็นการป้องกันไม่ให้ลูกโดนยุงกัดแล้ว การปิดบ้านให้มิดชิดยังช่วยป้องกันแมลงหรือสัตว์เลื้อยคลานอื่น ๆ ที่อาจแอบแฝงเข้ามาในบ้านได้อีกด้วย

กำจัดให้สิ้นซาก ทำลายแหล่งเพาะพันธุ์!

ทำลายวงจร ตัดตอนแหล่งเพาะพันธุ์ที่ยุงมาวางไข่ โดยพยายามอย่าให้เกิดน้ำขังในบริเวณบ้าน หมั่นเทน้ำ เปลี่ยนน้ำเป็นประจำ อาจจะเลือกโรยทราย เกลือ ผงซักฟอก หรือน้ำส้มสายชูผสมลงในน้ำเพื่อกำจัดตัวอ่อนในภาชนะที่บรรจุน้ำนิ่ง เช่น จานรองกระถางต้นไม้ อ่างบัว แจกัน จานรองขาตู้กับข้าว หรือถ้ามีบ่อน้ำก็ควรเลี้ยงปลาตัวเล็กอย่างปลาหางนกยูงไว้กำจัดลูกน้ำยุงลาย
 

2. เคล็ดลับปกป้องลูกน้อยจากยุง

ยุงเป็นพาหะที่ก่อให้เกิดโรคอันตรายได้มากมาย ทั้งโรคไข้เลือดออก โรคชิคุนกุนย่า โรคเท้าช้าง โรคมาลาเรีย ซึ่งบางโรคอาจส่งผลอันตรายในแบบที่ผู้ใหญ่หลายคนยังรับมือยาก แล้วกับลูกน้อยที่ยังปกป้องตัวเองไม่ได้ ยิ่งต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ จึงเป็นหน้าที่สำคัญของพ่อแม่ที่ต้องช่วยปกป้องดูแลไม่ให้ลูกโดนยุงกัด จนลูกแพ้ยุงได้ ด้วยวิธีเหล่านี้

การแต่งกายสำคัญ ต้องทำให้มิดชิด

ควรสวมใส่เสื้อผ้าที่ปกปิดร่างกายและผิวของลูกให้ได้มากที่สุด ปกปิดแขนขาให้มิดชิด โดยเฉพาะในตอนกลางคืนที่เป็นเวลายุงชุม หรือถ้าต้องพาลูกน้อยออกไปข้างนอก และควรเลือกให้ลูกใส่เสื้อผ้าสีอ่อน สีสว่าง ไม่ควรให้ลูกใส่เสื้อผ้าสีเข้ม เช่น สีดำ สีกรมท่า สีน้ำเงิน เพราะเป็นสีดึงดูดยุงที่อาจทำให้ลูกโดนยุงกัดได้ 

ป้องกันด้วยยากันยุง

การใช้ยากันยุงเหมาะสำหรับเด็กทารกที่มีอายุมากกว่า 2 เดือนขึ้นไป  ในเด็กอายุต่ำกว่า 2 เดือน ควรป้องกันไม่ให้ลูกโดนยุงกัดด้วยการให้อยู่ในห้องที่มีมุ้งลวดหรือเตียงเปลที่มีมุ้งผ้ากั้นตลอดเวลา และไม่ควรใช้ยากันยุงที่มีสารดีอีอีทีที่เข้มข้นเกิน 30 เปอร์เซ็นต์กับเด็กเล็ก รวมถึงไม่ควรใช้ยากันยุงที่มีส่วนผสมของเลม่อนแบบเข้มข้นกับเด็กอายุน้อยกว่า 3 ขวบ 

ในส่วนของการเลือกใช้ยากันยุง ควรพิจารณาควบคู่กับระยะเวลาที่ลูกน้อยอาจเสี่ยงโดนยุงกัดด้วย เช่น หากต้องไปข้างนอกไม่นานเพียง 1-2 ชั่วโมง ก็สามารถเลือกใช้ยากันยุงที่มีความเข้มข้นน้อยได้ แต่ถ้าหากมีระยะเวลานานกว่านั้นก็อาจจะต้องเลือกที่มีความเข้มข้นสูงตามขึ้นไป
 

3. ยุงกัดลูก ใช้อะไรทาบรรเทาได้บ้าง

ถึงแม้เราจะดูแลลูกน้อยดีแค่ไหน แต่ในบางครั้งการที่ลูกโดนยุงกัดจนครั่นเนื้อครั่นตัวเกิดตุ่มตัวลายเหมือนอาการที่ลูกแพ้ยุงก็อาจเกิดขึ้นได้ แต่ไม่ต้องตระหนกไป หากสงสัยว่าจะทำอย่างไรเมื่อยุงกัดลูก สามารถใช้อะไรทาได้บ้าง ลองดูตัวเลือกเหล่านี้ 

เริ่มอย่างเบสิก ล้างด้วยน้ำเปล่า

โดยให้ใช้น้ำเปล่าหรือสบู่อ่อน ๆ ล้างบริเวณที่ลูกโดนยุงกัด อาจตามด้วยการประคบน้ำแข็งหรือเจลเย็นเพื่อลดอาการคัน

เลือกบาล์มหรือยาหม่องขี้ผึ้งชนิดที่ไม่แสบร้อนผิว

เมื่อลูกเกิดตุ่มยุงกัด ต่อให้เป็นตุ่มธรรมดาก็ไม่ควรเกา เพราะอาจทำให้เกิดรอยแผลและอาจติดเชื้อได้ คุณพ่อคุณแม่จึงควรใช้ยาทามาบรรเทาตั้งแต่เริ่มเป็นตุ่ม โดยอาจเลือกใช้ยาบาล์มที่มีส่วนผสมของน้ำมันยูคาลิปตัส และการบูร เพื่อให้ลูกน้อยรู้สึกเย็นสบาย ลดอาการคัน

ทาผลิตภัณฑ์ยาในกลุ่มสเตียรอยด์

เมื่อลูกน้อยโดนยุงกัดและเริ่มมีอาการรุนแรง สามารถทาผลิตภัณฑ์ยาในกลุ่มสเตียรอยด์ที่อยู่ภายใต้คําแนะนําของแพทย์หรือเภสัชกร เพื่อช่วยบรรเทาอาการปวดและบรรเทาอาการแสบร้อนได้

คุณพ่อคุณแม่ควรหมั่นสังเกตอาการลูกน้อยเมื่อโดนยุงกัดให้ดี เพราะการที่ลูกแพ้ยุงก็อาจทำให้เกิดปัญหาตามมาได้ เช่น ลูกน้อยอาจแพ้มากและเกาบริเวณที่โดนยุงกัดจนเป็นแผลลุกลาม และอาจส่งผลให้เกิดโรคอื่นตามมา ดังนั้นจึงควรหมั่นสังเกตเป็นประจำ หากพบว่าลูกเริ่มมีผื่นที่เป็นนานกว่าปกติ หรือเกิดรอยดำ รอยแดง รวมถึงลมพิษที่บ่งบอกถึงอาการแพ้รุนแรง ก็ควรปรึกษาแพทย์เพื่อให้จ่ายยาได้ทันที ยิ่งในช่วงฝนตกอากาศชื้นยิ่งต้องดูแลให้ดี เพื่อความปลอดภัยของลูกน้อย และทุกคนในครอบครัว

 

ข้อมูลอ้างอิง

  1. ป้องกันลูกน้อยจากยุง ตัวร้ายแสนกวนใจ มีวิธีไหนบ้าง. สืบค้นเมื่อวันที่ 14 กันยายน 2565 จาก https://hellokhunmor.com/พ่อแม่เลี้ยงลูก/สุขภาพเด็ก/ป้องกันลูกน้อยจากยุง-วิธีป้องกันยุงให้ลูก
  2. ปกป้องลูกจาก ยุง ห่างไกลจากโรคร้าย. สืบค้นเมื่อวันที่ 14 กันยายน 2565 จาก https://www.rakluke.com/child-development-all/toddler-development/item/2020-03-21-13-26-31-3.html
  3. เรียนรู้วิธีป้องกันไม่ให้ยุงกัดกันเถอะ. สืบค้นเมื่อวันที่ 14 กันยายน 2565 จาก  https://www.krabinakharin.co.th/เรียนรู้วิธีป้องกันไม่ให้ยุงกัดกันเถอะ
  4. ลูกโดนยุงกัด แพ้ยุงจนตัวลาย ทำอย่างไรดี. สืบค้นเมื่อวันที่ 14 กันยายน 2565 จาก https://www.rakluke.com/child-development-all/baby-development/item/2020-03-21-13-24-18-3.html